จองครั้งเดียว หรือซื้อแพ็กเกจพร้อมส่วนลดถ้าใช้ประจำ แม่บ้านทุกคนผ่านขั้นตอนการสัมภาษณ์ การตรวจสอบประวัติ และการอบรมที่เข้มงวด จองออนไลน์ได้เลย

Bluuu ช่วยให้คุณจองแม่บ้านคุณภาพดีได้ออนไลน์ในราคาสมเหตุสมผล Bluuu lets you book high quality maids online at a reasonable price

ตรวจประวัติอาชญากรรม
ผ่านการอบรมคุณภาพ
แม่บ้านมีประสบการณ์
มีส่วนลดสูงสุด 18%
พื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล
มีทีมงานบริการลูกค้า

แม่บ้านออนไลน์ รายวัน รายสัปดาห์

check-icon

หาแม่บ้านรายวันสำหรับครั้งเดียวหรือซื้อแพ็คเกจพร้อมส่วนลด 5-18% สำหรับแม่บ้านรายสัปดาห์ แม่บ้านประจำ

check-icon

แม่บ้านทุกคนผ่านการคัดกรองสัมภาษณ์ ตรอจสอบประวัติอาชญากรรม การฝึกอบรม และควบคุมคุณภาพ

check-icon

เจ้าหน้าที่จะหาแม่บ้านทดแทนในกรณีฉุกเฉิน (เช่น ป่วย อุบัติเหตุ ฯลฯ)

Left Top ElementRight Bottom Element

แม่บ้านอันดับสูงสุด

ดูทั้งหมด (44)+

รีวิวจากคุณลูกค้า

จากที่ได้ใช้บริการแม่บ้าน Bluuu มาอย่างต่อเนื่อง ประทับใจการทำงานของแม่บ้านเป็นอย่างมาก สะอาด รวดเร็ว พูดเพราะ ตรงต่อเวลา และมีความรับผิดชอบตั้งใจทำงาน คิดว่าจะใช้บริการแม่บ้าน Bluuu ต่อไปเรื่อยๆค่ะ

testimonial-doubletestimonial-double

Mint

testimonial-img

ทางเราได้ใช้บริการแม่บ้านของ bluuu มาซักระยะหนึ่ง ค่อนข้างพอใจกับบริการ ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน หรือในตัวเว็บไซต์ของ bluuu เนื่องจากค่อนข้างใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ส่วนตัวแม่บ้านที่มาให้บริการ ก็ค่อนข้างมีมารยาท และ ทำงานค่อนข้างดี รวดเร็ว ตามกำหนดเวลาค่ะ

testimonial-doubletestimonial-double

Anny

testimonial-img

ค่าบริการ

  • one-time-icon
    ครั้งเดียว

    สามารถใช้บริการได้ตั้งแต่ 2 ชั่วโมงขึ้นไป ในราคาเริ่มต้นเพียง 500 บาทเท่านั้น

  • multi-package-icon
    แพ็กเกจ

    สามารถซื้อเครดิตได้สูงสุด 28 ครั้ง พร้อมรับส่วนลดพิเศษสูงสุด 18%

ดูค่าบริการ
ทำไมต้องเลือก Bluuu ?
ระบบคัดกรองแม่บ้านที่เข้มงวด

100% ของแม่บ้านต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบประวัติที่เข้มงวด

เราเป็นแพลตฟอร์มให้บริการแม่บ้านเพียง “แห่งเดียว” ในประเทศไทยที่

  • สัมภาษณ์แม่บ้านก่อนจ้าง เราสัมภาษณ์แม่บ้านทุกคน ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ คุณภาพในการให้บริการลูกค้า และประสบการณ์การทำความสะอาด
  • ปฏิเสธแม่บ้านที่มีประวัติอาชญากรรมทุกประเภท (บริษัท อื่น ๆ ทั้งหมดยอมรับแม่บ้านที่มีประวัติที่ไม่เกี่ยวกับการขโมยหรือทำร้ายร่างกาย ตัวอย่างเช่น เล่นการพนัน) เราตรวจสอบประวัติอาชญากรรมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ระบบการฝึกอบรมที่เข้มข้น

100% ของแม่บ้านต้องผ่านกระบวนการฝึกอบรมทักษะที่จำเป็นสำหรับงานบ้านและฝึกทัศนคติด้านการบริการ

  • ผ่านโปรแกรมการฝึกทักษะการทำงานบ้านมาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ได้รับมาตรฐานระดับสูงของสมาคมแม่บ้านญี่ปุ่น
  • ผ่านโปรแกรมการฝึกทักษะแม่บ้านในระดับต่าง ๆ ที่บริษัทกำหนดไว้ กรณีที่แม่บ้านต้องการยกระดับมาตรฐานการบริการให้สูงขึ้น
ผู้นำด้านเทคโนโลยี

Bluuu เป็นทั้งบริษัทด้านการบริการและผู้นำด้านเทคโนโลยี

  • ภารกิจของ Bluuu คือการยกระดับมาตรฐานแรงงานด้วยเทคโนโลยี
  • ผู้ก่อตั้ง Bluuu ได้รับแรงบันดาลใจจาก Google จึงมุ่งมั่นลงทุนในเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานให้กับทั้งผู้ใช้บริการและแม่บ้าน
ทำไมต้องจองแม่บ้านผ่าน Bluuu ?

จองเมื่อคุณต้องการ
เริ่มต้นเพียง 2 ชั่วโมงต่อครั้ง

เลือกแม่บ้านจนกว่าคุณจะพบแม่บ้านที่เหมาะที่สุดสำหรับคุณ

มีกระบวนการสรรหาคนที่เข้มงวด
(สัมภาษณ์คัดเลือก และตรวจสอบประวัติอาชญากรรม)

มีการฝึกอบรมที่ครอบคลุม

ใช้บริการ Bluuu ได้อย่างไร ?
การจอง
เปลี่ยนกำหนดการนัดหมาย
ขั้นตอนการบริการ
1

กำหนดวัน / เวลาที่คุณต้องการ

2

เลือกแม่บ้านที่คุณต้องการ
หรือให้ Bluuu
แนะนำแม่บ้านให้คุณ

3

ยืนยันการจอง
ระบบจะแจ้งข้อมูลไปยังแม่บ้าน
และเข้าสู่ขั้นตอนการชำระเงิน

4

แม่บ้านกดรับงาน
เพียงเท่านี้การจองของคุณ
ก็เสร็จสมบูรณ์

บทความบล็อก

Article Image
ข้าวกล้อง vs ข้าวไรซ์เบอร์รี่ สำหรับคนลดน้ำหนัก กินอะไรดีกว่ากัน?
17 มิถุนายน 2025
กระแสการดูแลสุขภาพในปัจจุบันส่งผลให้อาหารตามธรรมชาติต่างๆทั้งผัก ผลไม้ และธัญพืชได้รับความนิยมมากขึ้น อีกทั้งเป็นเพราะการระวังตัวเองเกี่ยวกับโรคร้ายที่อาจส่งผลต่อสุขภาพในอนาคต จึงเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายนั่นเอง ข้าว เป็นอาหารจานหลักของคนไทย ซึ่งสายพันธุ์ของข้าวนั้นมีเยอะหลากหลายชนิด ซึ่งข้าวปกติที่เป็นข้าวขาวนั้นมีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง ไม่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานหรือคนที่ต้องการจะลดน้ำตาลเพื่อควบคุมน้ำหนัก หลายคนถกเถียงกันว่าถ้าลดน้ำหนักควรงดทานคาร์โบไฮเดรตเพราะเป็นแป้งและแป้งจะถูกย่อยเป็นน้ำตาล แต่ที่จริงแล้วนั้นควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ไม่ควรงดหมู่ใดหมู่หนึ่ง เพราะอาหารแต่ละหมู่นั้นก็มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างร่างกาย ซึ่งข้าวที่คนลดน้ำหนักนิยมกินกันมากคือข้าวกล้องและข้าวไรซ์เบอร์รี่ เพราะมีคุณค่าทางอาหารมากกว่าข้าวขาวขัดสีทั่วไป วันนี้ทางผู้เขียนจะมาแนะนำค่ะ ข้าวกล้อง ข้าวกล้อง คือข้าวที่ผ่านการนำเปลือกออก (ผ่านการสีข้าว) แค่ครั้งเดียวโดย เมล็ดข้าวไม่ได้ผ่านการขัดสีหลายครั้งเหมือนข้าวขาว  ซึ่งข้าวกล้องยังมีจมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดอยู่ จึงมีสีน้ำตาลอ่อน มีกลิ่นหอม นุ่มหนึบกว่าข้าวขาว อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารมากกว่าข้าวขาวนั่นเอง ประโยชน์ทางโภชนาการของข้าวกล้อง มีวิตามินบี ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ : ข้าวกล้องมีทั้งวิตามิน B1 B2 เป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยในเรื่องเหน็บชา โลหิตจาง บำรุงระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ไม่อ่อนเพลียง่าย ช่วยในการสร้างเส้นผมและเล็บ  ข้าวกล้องมีไฟเบอร์สูงช่วยลดน้ำหนักได้ : ทำให้ทานแล้วอิ่มนาน ลดการหิวบ่อยหรือทานจุกจิก นอกจากนี้ไฟเบอร์ยังช่วยในการขับถ่าย ลดอาการท้องผูกและโรคลำไส้อักเสบ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด : เนื่องจากข้าวกล้องมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ จึงเหมาะสมกับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำตาล ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วน และกำลังลดน้ำหนัก มีไขมันดีช่วยลดโรค่าไขมันในเลือด : ในข้าวกล้องมีไขมันดีที่ไม่มีคลอเลสเตอรอล ช่วยลดการสะสมของไขมันในเส้นเลือด นอกจากนี้ข้าวกล้องยังมีวิตามินและแร่ธาตุรวมกันอีกหลายชนิด อีกทั้งยังมีโปรตีนที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้เจริญเติบโต ข้อแนะนำ  : ข้าวกล้องไม่ได้เหมาะกับทุกคน เพราะมีฟอสฟอรัสสูง ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคไต เพราะอาจทำให้ไตทำงานหนักได้ ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ ข้าวไรซ์เบอร์รี่  ข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นข้าวลูกผสมสายพันธุ์ใหม่ ระหว่างข้าวเจ้าหอมนิลกับข้าวหอมมะลิ 105 ลักษณะเมล็ดเรียวยาว สีม่วงเข้ม มีกลิ่นหอม เคี้ยวกรุบและหนึบกว่าข้าวกล้อง มีคุณค่าทางสารอาหารและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย และที่สำคัญข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นพฤกษาเคมีสีม่วง (มีแอนโทไซยานิน) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์มากชนิดหนึ่ง ประโยชน์ทางโภชนาการของข้าวไรซ์เบอร์รี่ มีสารแอนโทไซยานิน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระธรรมชาติ : ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย ลดการอักเสบในร่างกาย ฟื้นฟูระบบประสาทและสมอง ลดความเสี่ยงต่อการเกิด โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และโรคมะเร็ง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ดัชนีน้ำตาลต่ำ : ควบคุมระดับน้ำตาลและลดคลอเลสเตอรอล เพราะมีสารแกมมาโอไรซานอล มีใยอาหารสูง ช่วยลดน้ำหนัก : มีไยอาหารมากกว่าข้าวขาวและข้าวกล้อง 3 เท่า ทำให้อิ่มนาน ไม่กินจุกจิก อีกทั้งไยอาหารยังช่วยลดอาการท้องผูกอีกด้วย  มีส่วนช่วยลดไขมันในเลือด : ลดคลอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในหลอดเลือด ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันที่ตับ มีลูทีน ซีแซนทีน : ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม  นอกจากนี้ยังช่วยให้เซลล์แก่ช้าลง ได้สารต้านอนุมูลอิสระมากกว่า 23 ชนิด  ข้อแนะนำ : หากใครที่เริ่มทานข้าวไรซ์เบอร์รี่ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรทานมากเกินไปเพราะอาจทำให้ท้องอืดหรือแน่นท้องเนื่องจากมีไฟเบอร์สูง และอาจยังไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาการดูดซึมธาตุเหล็กและผู้ป่วยโรคไต เปรียบเทียบข้าวกล้อง vs ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวกล้อง : นุ่ม กินง่ายกว่า ความแข็งน้อยกว่า มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระกลุ่มฟลาโวนอล มีแป้งน้อยกว่าข้าวขาวปกติประมาณ 10% หาซื้อง่ายราคาสูงกว่าข้าวขาวเล็กน้อยแต่ไม่สูงเท่าข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ : แข็งมากกว่าข้าวกล้อง มีความกรุบหนึบกว่า  ไยอาหารสูงกว่าข้าวกล้อง ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น อิ่มนาน มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระกลุ่มแอนโทไซยานิน ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก  ควรเลือกทานแบบไหนดี ? คนทั่วไป : แนะนำข้าวกล้อง เพราะมีวิตามินและไยอาหารมากกว่าข้าวขาว แต่นุ่มและทานง่ายกว่าข้าวไรซ์เบอร์รี่ คนที่ต้องการลดน้ำหนัก : ข้าวไรซ์เบอร์รี่ เพราะมีไยอาหารสูง อิ่มนาน วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระเยอะ ช่วยบำรุงร่างกาย  อย่างไรก็ตามทั้งข้าวกล้องและข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นข้าวที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ไฟเบอร์สูงอิ่มนาน เหมาะกับการทานเพื่อลดน้ำหนักได้ทั้งคู่ เราควรสลับกันทานเพื่อความหลากหลายของสารอาหาร ไม่แนะนำให้ทานชนิดใดชนิดหนึ่งติดต่อกันเป็นเวลานาน ทั้งข้าวกล้องและข้าวไรซ์เบอร์รี่ดีต่อสุขภาพ การเลือกทานขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของแต่ละคนซึ่งการทานอาหารที่สมดุลคือสิ่งที่สำคัญในระยะยาว การดูแลสุขภาพภายในควบคู่กับปัจจัยภายนอกอย่างที่อยู่อาศัยก็เป็นส่วนสำคัญ เพราะหากที่อยู่อาศัยสกปรกไม่ได้รับการดูแลก็อาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกายได้เช่นกัน หากคุณไม่มีเวลาทำความสะอาดบ้าน อย่าลืมนึกถึงบริการแม่บ้านออนไลน์ bluuu เรามีแม่บ้านบริการทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ bluuu แม่บ้านออนไลน์ เกี่ยวกับผู้เขียน  Uthaiwan B.
อ่านเพิ่มเติม
Article Image
8 ผลไม้ที่ควรระวัง เสี่ยงทำลายสุขภาพและ “ไต” โดยไม่รู้ตัว
12 มิถุนายน 2025
ผลไม้ คืออาหารที่คนส่วนใหญ่มองว่า ปลอดภัย และ ดีต่อสุขภาพ แต่ความจริงแล้ว ผลไม้บางชนิดหากรับประทานไม่เหมาะสม หรือในภาวะร่างกายที่มีปัญหา เช่น โรคไต เบาหวาน หรือความดัน อาจส่งผลร้ายแรงต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะ ไต ซึ่งทำหน้าที่กรองของเสียจากกระแสเลือด วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 8 ผลไม้ที่ควรระวัง เพราะอาจซ่อนภัยต่อสุขภาพโดยไม่รู้ตัว 1. มะเฟือง  มะเฟืองมีกรดออกซาลิกสูง โดยเฉพาะ “มะเฟืองเปรี้ยว” ซึ่งมีความเข้มข้นของกรดมากกว่ามะเฟืองหวานถึง 4 เท่า เมื่อรับประทานเข้าไปจะทำให้ระดับออกซาเลตในเลือดสูงขึ้น หากร่างกายขาดน้ำหรือมีการออกกำลังกายพร้อมกัน ไตก็จะกรองสารพิษเหล่านี้ได้ยากขึ้น ทำให้เสี่ยงเกิดภาวะ นิ่วในไต หรือ ไตวายเฉียบพลัน ได้อย่างรวดเร็ว คำแนะนำ: หลีกเลี่ยงน้ำมะเฟืองโดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคไต 2. ลูกเนียง  แม้ลูกเนียงจะมีสารที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แต่การกิน “ลูกเนียงดิบ” จำนวนมากอาจก่อพิษรุนแรงต่อไต เนื่องจากมี กรดเจงโคลิค (Djenkolic acid) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่มีส่วนประกอบของกำมะถัน เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะตกผลึกในท่อไต ทำให้เกิดอาการ ปัสสาวะลำบาก ปวดเอวหรือขาหนีบ ปัสสาวะเป็นเลือดหรือขุ่นคล้ายน้ำนม ซึ่งในบางรายอาจรุนแรงถึงขั้น ไตวาย หรือ เสียชีวิต คำแนะนำ: ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไตหรือดื่มน้ำน้อย ควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด 3. ส้มโอ  ส้มโอมีสารฟลาโวนอยด์ชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า ฟูราโนคูมาริน (Furanocoumarin) ซึ่งสามารถยับยั้งเอนไซม์ CYP3A4 ในตับ ทำให้ยาบางชนิด (โดยเฉพาะยาลดความดันโลหิต และยาลดไขมันในเลือด) ไม่สามารถสลายตัวได้ตามปกติ ส่งผลให้ตัวยาเข้มข้นในร่างกายสูงเกินไป อาจทำให้ความดันลดฮวบ หรือส่งผลกระทบต่อการทำงานของไตในระยะยาว คำแนะนำ:  ถ้าผู้ทานมีความดันโลหิตสูงและรับประทานยาอยู่ ควรรับประทานส้มโอในปริมาณที่พอเหมาะ 4. เชอรี่  เมล็ดของเชอรี่มีสารพิษที่ชื่อว่า อะมิกดาลิน (Amygdalin) ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนเป็น ไฮโดรเจนไซยาไนด์ (Hydrogen Cyanide) สารนี้มีพิษร้ายแรงต่อระบบประสาทและระบบไต หากบริโภคเมล็ดจำนวนมาก หรือเคี้ยวเมล็ดโดยไม่ได้ตั้งใจ อาจเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ หรือถึงขั้น ภาวะไตล้มเหลวเฉียบพลัน ได้ คำแนะนำ: รับประทานแต่เนื้อเชอรี่ และทิ้งเมล็ดอย่างระมัดระวัง 5. ผลไม้กระป๋อง  แม้จะสะดวกและอร่อย แต่ “ผลไม้กระป๋อง” โดยเฉพาะที่แช่เย็นไว้นานอาจปนเปื้อนโลหะจากกระป๋อง เช่น ตะกั่วหรือสนิม หากมีรอยรั่วหรือบุบ สารเหล่านี้สามารถละลายเข้าสู่น้ำเชื่อมในกระป๋อง และเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะสะสมใน “ตับและไต” ทำให้ระบบกรองของเสียทำงานหนัก และอาจกลายเป็นโรคไตเรื้อรังในระยะยาว หากเลือกผลไม้สดหรือผลไม้แช่แข็งแทนจะปลอดภัยกว่า 6. ทุเรียน  ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลและไขมันสูงมาก ใกล้เคียงกับการกินเค้กหนึ่งก้อนเลยทีเดียว นอกจากจะไม่เหมาะกับผู้ที่ควบคุมน้ำหนักแล้ว ยังมีโพแทสเซียมสูงเกินไปสำหรับผู้ป่วยโรคไต เพราะไตที่เสื่อมจะไม่สามารถขับโพแทสเซียมส่วนเกินได้ ทำให้เสี่ยงหัวใจเต้นผิดจังหวะ กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือ ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน 7. ส้ม  จากความต้องการในตลาดสูง ทำให้การปลูกส้มมีการใช้สารเคมีจำนวนมาก ทั้งปุ๋ยเร่งโต ยาฆ่าแมลง และสารเคลือบเปลือกเพื่อยืดอายุ เมื่อรับประทานเข้าไปจำนวนมาก อาจมีการสะสมของสารพิษใน ตับและไต ส่งผลให้ค่าไตผิดปกติ และเสี่ยงต่อการเกิดโรคนิ่ว คำแนะนำ: เลือกส้มจากแหล่งออร์แกนิก หรือปลูกเองเพื่อหลีกเลี่ยงสารตกค้าง 8. มะละกอ  แม้มะละกอจะมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะในเรื่องการขับถ่ายและบำรุงสายตา แต่วิตามินเอในมะละกอนั้น หากรับประทานมากเกินไป อาจก่อให้เกิดภาวะ วิตามินเอสะสม (Hypervitaminosis A) ซึ่งส่งผลต่อระบบประสาท เช่น ปวดศีรษะ หงุดหงิด เซื่องซึม และหากผู้ป่วยมีโรคไตร่วมด้วย อาจทำให้ร่างกายไม่สามารถขับวิตามินเอส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ  คำแนะนำ: รับประทานในปริมาณพอเหมาะ วันละไม่เกิน 1 จานเล็ก สรุป แม้ผลไม้จะเต็มไปด้วยสารอาหาร แต่การเลือกให้เหมาะกับสุขภาพของแต่ละคน โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไต เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง อย่าลืมว่า สิ่งที่ดีในปริมาณมากเกินไป ก็อาจกลายเป็นภัยเงียบที่ทำร้ายร่างกายได้ การหลีกเลี่ยงผลไม้ที่เป็นอันตรายต่อไตคือจุดเริ่มต้นของสุขภาพที่ดีในระยะยาว แต่อย่าลืมว่า สิ่งที่ทำร้ายไตไม่ได้มีแค่ในอาหาร แต่รวมถึง พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันในบ้าน หรือแม้แต่บ้านที่ไม่สะอาดก็อาจเพิ่มความเสี่ยงของเชื้อโรค  ถ้าหากคุณสนใจใช้บริการแม่บ้านมืออาชีพรายชั่วโมง คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดและราคาค่าบริการได้เลยครับ เกี่ยวกับผู้เขียน Thossaporn K.
อ่านเพิ่มเติม
บริษัทของเราได้รับการรับรองจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ของประเทศไทย
DBD_Verified_Silver